
ไทบ้าน x BNK48 เมื่อสองจักรวาลที่แตกต่างต้องมาพบกันบนหน้าจอเดียวกัน คนหนึ่งเป็นนักร้องกลุ่มไอดอลหญิงแห่งยุค และอีกคนหนึ่งเป็นแก๊งค์หนุ่มไทยจากบ้านแดนอีสาน กลายเป็นภารกิจที่จำเป็นและสนุกสนานในภาพยนตร์เรื่อง ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ ที่กลายเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในวงการเพลงและภาพยนตร์ และได้ผลลัพธ์ความบันเทิงที่น่าพึงพอใจ เป็นเรื่องราวของสาวๆ BNK 48 ที่ต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงในกระแสดนตรี ที่แนวเพลงหมอลำลูกทุ่งอีสานเริ่มครองใจตลาดคนฟังมากขึ้น ทำให้ทางต้นสังกัดต้องหาแนวทางในการรับมือ ด้วยประเปิดโปรเจกต์ลับให้สาวๆ ทั้ง 8 คน ประกอบด้วย เนย, โมบายล์, แก้ว, ตาหวาน, น้ำหนึ่ง, น้ำใส, ปูเป้ และ ไข่มุก ไปทำเพลงสำเนียงอีสานกับ เจ๊ก้อง ห้วยไร่ ถ้าหากผู้ชมคนไหนที่อยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้จะจบลงยังไง ? บทสรุปสุดท้ายจะเป็นแบบไหน ? มาติดตามรับชมการแนะนำหนังไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้ได้เลยค่ะ doonungde.com
ดูหนัง Thai Ban x BNK48 ภาพยนตร์เรื่อง ไทบ้านx BNK 48 จากใจผู้สาวคนนี้ยังคงได้รับ “สุรศักดิ์ ป้องศร” ผู้บุกเบิกซีรีส์ภาพยนตร์ไทบ้านทั้ง 3 ภาค มานั่งแท่นผู้กำกับ พร้อมด้วยชุดนักแสดงจาก ไทบ้าน เดอะซีรีส์ เช่น “จ่าลอด (ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร), มืด (ธนาดล บัวระบัติ), ครูแก้ว (ธันวาพร นาสมบัติ) และก้อง ห้วยไร่ (อัครเดช ยอดจำปา)” ศิลปินเลือดอีสานเจ้าของบทเพลง “ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน” มาร่วมแสดงกับน้องๆ จากวง BNK 48 ทั้ง 8 คน ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2 Part 1
ซึ่งประกอบไปด้วย “เนย (กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล), แก้ว (ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ), โมบายล์ (พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค), น้ำหนึ่ง (มิลิน ดอกเทียน), ไข่มุก (วรัทยา ดีสมเลิศ), น้ำใส (พิชญาภา นาถา), ตาหวาน (อิสราภา ธวัชภักดี) และปูเป้ (จิรดาภา อินทจักร)” และนอกนี้ยังมี “จ๊อบซัง (ณัฐพล บวรวัฒนะ)” ผู้จัดการวงเกิร์ลกรุ๊ป BNK48 ร่วมแสดงด้วย
เนื้อเรื่องเริ่มจาก เมื่อในยุคปัจจุบันเพลงทำนองหมอลำ อีสาน ได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้วง BNK48 ที่ยึดถือการทำเพลงตามแบบฉบับบริษัทแม่ ที่เป็นบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นเริ่มเสื่อมความนิยมลง เพื่อกู้วิกฤตของวงที่กำลังเสื่อมความนิยม “จ๊อบซัง” ได้ลองเสี่ยงที่จะริเริ่มโปรเจ็คท์ลับขึ้น ดู Thai Ban x BNK48
โดยการส่งให้น้องๆ BNK48 ทั้ง 8 คนต้องไปทำเพลงหมอลำ ซึ่งจ๊อบซังก็ได้จ้างวาน “เจ๊ก้อง ห้วยไร่” ศิลปินชื่อดังแอ๊บแมนที่กำลังมีหนี้สินจำนวนมหาศาล มาช่วยเหล่าน้องๆ BNK48 ทั้ง 8 ทำเพลงอีสานขึ้นมา เจ๊ก้อง ห้วยไร่ จึงงัดไม้เด็ดเพื่อให้ น้องๆ ทั้ง 8 คน ได้ศึกษาวิถีชีวิตและการร้องเพลงอีสานแบบต้นกำเนิดอย่างแท้จริง
จึงได้พาน้องๆ ทั้ง 8 คน ไปฝึกฝนเส้นทางสู่การเป็นราชินีเพลงหมอลำที่จังหวัดบ้านเกิดของตนเอง ทั้งนี้ก็ยังได้ “จ่าลอด” และน้องชายอย่าง “มืด” แห่งไทบ้านมาเป็นผู้ช่วยในการสอนน้องๆ BNK48 ทั้ง 8 คน ในการทำเพลงอีสานอีกด้วย
หลังจากนี้ก็จะเป็นเรื่องราวของไอดอลลูกคุณหนูจากเมืองกรุง ต้องมาเรียนรู้ชีวิตความลำบากจากบ้านนอกเพื่อซึมซับวิถีชีวิตของคนอีสาน และรังสรรค์บทเพลงท่วงทำนองอีสานที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของพวกเธอ ที่ผสมผสานกลมกล่อมเข้ากับวิถีชาวบ้านแบบอีสานแท้ๆ ขึ้นมา กลับได้พบกับความ “โดดดิด่ง”
หนังเรื่อง Thai Ban x BNK48 นี้น่าจะสร้างความบันเทิงให้กับแฟนๆ BNK48 ได้เป็นอย่างดี ต้องยอมรับว่าเสน่ห์และความสดใสของสาวๆ คือส่วนที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ การแสดงที่ไม่เหมือนการแสดง เพราะต้องแสดงตนเป็นตัวของตัวเอง ทำให้ยังคงมีลักษณะเป็นของตัวเอง เพียงแต่ว่าเนื้อเรื่องถูกจัดทำขึ้นเพื่อเป็นการแสดงเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถเห็นทักษะการแสดงของสาวๆได้มากน้อยเพียงใด
แต่เมื่อดูนาทีแรก หนังก็ปูทางให้สาวๆ BNK48 เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ หนังเรื่องนี้สร้างมาเพื่อความสนุกสนานแบบที่ ถ้าเป็นโอตะจะฟินจะจิกเบาะเลยหละค่ะ ทั้งในตัวนักแสดงในหนังเอง ปรับบทบาทให้เกือบทุกคนมีฉากเป็นของตัวเอง แต่ก็แอบเสียดาย ตาหวาน และ น้ำใส ที่น่าจะได้ซีนมากกว่านี้ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ใช่แฟนหนังไทยบ้านก็ตามเมื่อได้ลองดูหนังเรื่องนี้คุณคงอยากหาทบ้าน เดอะซีรีส์ ทั้ง 3 ภาคมาดูแน่นอนค่ะ
สำหรับผู้เขียนคิดว่าบทภาพยนตร์ของหนังคือปัญหาใหญ่ อันที่จริงหนัง ไทบ้านx BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ นั้นมีโครงเรื่องหลักๆ ขนาดหยิบมือเดียว แต่ได้ใส่จุดไม่สำคัญอะไรเข้ามาเยอะเกินจำเป็น ส่งผลกระทบต่อการเล่าเรื่องที่ไม่ค่อยราบรื่นในหลายจุด รวมทั้งจุดไคลแมกซ์ของหนัง และบทสรุปของหนังที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกผูกพันอะไร
แต่บรรยากาศท้องถิ่น หมู่บ้านธรรมดาๆ ที่ปรากฏอยู่ในหนังนั้นถือว่าเป็นอีกเสน่ห์ที่ช่วยสร้างอรรถรสให้กับหนังเป็นอย่างดี ฉากต่างๆ ช่วยเพิ่มอารมณ์ร่วมของคนดู แต่ก็ยังครึ่งๆ กลางๆ เมื่อต้องมาเจอการเล่าเรื่องที่ทำได้ยังไม่ถึงใจถึงอารมณ์เพียงพอ ดูหนัง ไทบ้านเดอะซีรีส์
อีกตัวละครที่พูดถึงไม่ได้ คือ “เจ๊ก้อง” รับบทโดย “ก้อง ห้วยไร่” ถ้านี่คือส้มตำจานเด็ด บทบาทเจ๊ก้อง คือมะนาวเปรี้ยวๆ แท้จริง ความสนุกพาคนดูได้อยู่หมัด เมื่อได้ยินเสียงซาวนด์เพลง “โดดดิด่ง” จนอยากดูไปและเพิ่มระดับความคาดหวังได้อยู่หมัด จนเมื่อเข้าถึงครึ่งหลัง “จากใจผู้สาวคนนี้”
ถือว่าเป็นการโชว์ศักยภาพการแสดงของ “เนย” และ “แก้ว” อย่างชัดเจน (ยิ่งทำให้รู้ว่าเหล่าสาวๆ วงนี้มีของจริงๆ) แต่อนิจจา หนังดันเดินเรื่องไปต่อแบบให้คนดูลุ้นแบบงงๆ ไปไม่สุดสักทาง ซาวนด์เพลงที่เคยตื่นเต้น เดี๋ยวเริ่มกลับมามีหวัง แต่ก็หักมุมอีก จบแบบเหมือนจะสร้างความประทับใจ แต่ทำไมมันกลายเป็น “ทำให้อยากแล้วจากไปมากกว่า”
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในมุมมองของนักดูหนัง ถ้าจะบอกว่าหนังแย่มากก็คงไม่ใช่ แค่บทมันเป็นจังหวะโดดดิด่งมากจนเกินไปจนคนดูไม่อินสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเรื่องเสน่ห์นักแสดงบอกได้เลยว่า ดีงามทุกตัวละครเลยค่ะ แม้แต่ “จ๊อบซัง” ยังเล่นดี บริษัท บีเอ็นเค48 กรุ๊ป นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ไทบ้าน x BNK 48 เต็มเรื่อง
มีบางจุดที่หนังยังมีจุดด้อยอยู่บ้าง ก็คือมีความขัดแย้งกันตั้งแต่ต้นระหว่างพี่น้องกับชาวไทบ้านเพราะแต่ละคนมีความโดดเด่นในแบบของตัวเองมากเกินไป ช่วงเวลาตัดต่อหลายช่วง จบลงในแต่ละฉากจนกระทั่งรู้สึกว่ามันผิดที่ผิดทางเล็กน้อย ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2
การอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักยังรู้สึกเหมือนมีเวลาไม่เพียงพอจนเราไม่เข้าใจเมื่อพวกเขาอยู่ใกล้กันขนาดนั้น อาจเป็นเพราะหนังมีตัวละครมากมาย ที่แบ่งสรรปันส่วนเล่า อย่างไรก็ตามยังมีคนอีกอย่างน้อย 2-3 คน ที่ไม่มีฉากที่น่าจดจำเป็นของตัวเองสักเท่าไหร่
และปัญหาเล็กน้อยก็คือหนังมีหลายฉากซึ่งถ้าไม่เคยดูหนังไทบ้านมาก่อน ก็จะไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ระหว่างตัวละครบางคู่เลย ส่วนเรื่องที่คาดไม่ถึงที่สุดน่าจะเป็นการที่หนังน่าจะใช้ดนตรีเป็นตัวนำเรื่องทั้งเนื้อเรื่อง รวมไปถึงเพลงโปรโมทหลายเพลงที่ปล่อยออกมามากมาย แต่ในหนังกลับสนองจุดนี้ได้น้อยเกินไป
โดยรวมแล้วด้วยความโดดเด่นขององค์ประกอบใหม่ๆ อย่าง ดู ไทบ้าน และ BNK 48 และก้อง ห้วยไร่ ทำให้หนังเรื่องนี้สนุกและบันเทิงใจมาก ยากที่จะไม่ยิ้มไปกับตัวละครทุกตัว ถึงจะมีจุดบกพร่องบ้างบางช่วง (ตามสไตล์ ดิบๆ ของไทบ้าน) แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสจนทำให้ความสนุกตื่นเต้นของเรื่องนี้เสียหายแต่อย่างใด ดูหนังมาใหม่ ไทบ้าน x BNK 48
และที่สำคัญถ้าคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BNK48 นี่เป็นโอกาสสำคัญที่จะได้เห็นมุมมองที่ไม่เคยเห็นอีกด้วย ส่วนแฟนๆหนังไทบ้านเองก็ห้ามพลาด เพราะถือเป็นภาคต่อของแฟรนไชส์ ไม่ใช่แค่ภาคแยก และยังปูทางไปสู่ภาพยนตร์ไทบ้านเรื่องใหม่อีกด้วย โดยหนังเรื่องนี้อาจจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในด้านการเซอร์วิสแฟนเพลงและเกิร์ลกรุ๊ป แต่ถ้าหากมองภาพรวมในความเป็นภาพยนตร์แล้ว ตัวหนังยังทำได้ไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ และนับว่าเสน่ห์ของความเป็น “ไทบ้าน” ก็ยังไม่เข้มข้นมากพอด้วย
ทั้งนี้การรีวิวเป็นความชอบและเป็นความรู้สึกของผู้เขียนเท่านั้น ทางเราไม่ได้ตัดสินว่าเรื่องไหนดีหรือไม่ดีเพราะรสนิยมความชอบของคนเราไม่เหมือนกัน ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ ครั้งหน้าจะมารีวิวเรื่องอะไร อย่าลืมติดตามกันนะคะ