
Avatar 2 The Way of Water ไม่ว่าจะเดินทางไปยังที่ไหน ครอบครัวนี้จะยังคงเป็นปราการคุ้มครองเราเสมอ
ผ่านไปกว่า 10 ปี จากเหตุการณ์ในภาพยนตร์ภาคแรก “อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ” เริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องราวของครอบครัวซัลลี่ (เจค เนย์ทีรี่ และลูก ๆ ของพวกเขา) และปัญหาที่พวกเขาต้องเผชิญ ทั้งการพยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องสมาชิกในครอบครัว การต่อสู้เอาชีวิตรอด และโศกนาฏกรรมที่พวกเขาต้องพบเจอ แต่ไม่อยากไปดูที่โรง ทางเรา Nunghdmai ขอนำเสนอเว็บดูหนังที่นำหนังใหม่ หนังชั้นนำ หนังชนโรง มาฉายให้ดูฟรีเป็นที่แรก และเพียงไม่กี่ที่เท่านั้นในไทย ตอนนี้เรายังแนะนำ หนังที่กำลังเป็นกระแสตอนนี้เลย เช่น ดูบุพเพสันนิวาส2 , ดูหนังผ้าผีบอกฟรี เป็นต้น เป็นหนังกำลังมาแรงตีคู่กับ Avatar 2 เชิ้นเข้ามารับชมกันอย่างเต็มอิ่ม ด้วยภาพที่ชัดระดับ 4k ต้องกับเราเท่านั้น ดู Avatar 2 เว็บดูหนังอันดับ1
วันนี้เรา wordpress-870602-3182695.cloudwaysapps.com จะนำทุกคนเข้าสู่ภาพยนตร์เรื่อง อวตาร 2 วิถีแห่งสายน้ำ ความยาว 3 ชั่วโมง 12 นาที จะเล่าเรื่องราวของครอบครัวซัลลี ที่ต้องเจอกับปัญหาในระหว่างมุ่งหน้าจัดการภัยที่กำลังเข้ามาคุกคามเผ่าพันธุ์ของตัวเอง โดยเขาจะต้องพยายามปกป้องคนที่รัก และก้าวผ่านโศกนาฏกรรมครั้งรุนแรงนี้ไปให้ได้ โดยเรื่องนี้ยังคงมีทัพนักแสดงมากฝีมือกลับมารวมกันอย่างคับคั่ง
ไม่ว่าจะเป็น โซอี ซัลดานา, แซม เวิร์ธธิงตัน, ซิกอร์นีย์ วีเวอร์, สตีเฟน แลง, คลิฟ เคอร์ติส, เคลเมนท์, จิโอวานนี่ ริบิซี่ และ เคท วินสเล็ต หากอยากพิสูจน์ว่าเจมส์ คาเมรอน ทำได้ดีและไม่ดีจริงอย่างที่นักวิจารณ์ว่าไว้หรือไม่ สมการรอคอยที่ยาวนานเป็นสิบปีหรือเปล่า ลองเข้าไปพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองได้เลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 14 ธันวาคม ทุกโรงภาพยนตร์.
‘The Way of Water’ จะห่างจากภาคแรก 10 ปีครับ เจค ซัลลี (Sam Worthington) อดีตนาวิกโยธินในร่างชาวนาวี ณ ตอนนี้กลายเป็นพ่อคนแล้ว เพราะหลังจากที่เธอรักกับ เนย์ทีรี (Zoe Saldana)
ทั้งสองคนก็มีลูกด้วยกัน ทั้งลูกจริง ๆ อย่าง นาทายัม (Jamie Flatters) พี่ชายคนโต, โลอัค (Britain Dalton) น้องชายคนเล็ก, ตุกทีรี (Trinity Jo-Li Bliss) น้องสาวคนสุดท้อง
รวมทั้งลูกบุญธรรมครึ่งคนครึ่งอวตารอย่าง คิริ (Sigourney Weaver) และ สไปเดอร์ (Jack Champion) เด็กมนุษย์แปลกแยกผู้ใช้ชีวิตเยี่ยงชาวนาวี ความแค้นจากภาคแรก ทำให้ซัลลีและเนย์ทีรีตกเป็นเป้าของ พันเอกไมล์ ควอริตช์ (Stephen Lang) ที่เคยโดนธนูของเนย์ทีรี ซัดม่องเท่งคาหุ่นยนต์ไปในภาคที่แล้ว (ไม่บอกหรอกนะครับว่ากลับมายังไง)
เป้าหมายของหน่วยงาน RDA (Resource Development Administration) เปลี่ยนจุดประสงค์จากการขุดหาแร่ ไปสู่การหาพื้นที่เพื่อให้มนุษย์ตั้งรกรากอาศัย ทำให้การรุกรานพื้นที่ของชาวนาวีบนดาวแพนโดรายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น พวกเขาก็เลยจำต้องย้ายอพยพไปอยู่ในดินแดนแห่งสายน้ำร่วมกับชนเผ่าทะเลที่เรียกว่า เม็ตคายีนา (Metkayina) ณ ที่นั้น โตโนวารี (Cliff Curtis)
หัวหน้าเผ่า, โรนัล (Kate Winslet), ศิเรยา (Bailey Bass) และ อาวนุง (Filip Geljo) จึงต้องสอนครอบครัว ของซัลลีให้อยู่กับวิถีแห่งสายน้ำให้ได้ พร้อมกับต้องรับมือกับภัยคุกคามที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม
สิ่งที่ต้องชื่นชมอย่างแน่ ๆ แบบที่ไม่ต้องเดาอะไรให้วุ่นวายก็คงหนีไม่พ้นวิสัยทัศน์ของ เจมส์ คาเมรอน นั่นแหละครับ เพราะว่าปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การผลักดันเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพสามมิติในภาคนี้นั้นไปไกลกว่าภาคแรก และไกลกว่าหนังเรื่องอื่น ๆ ไปไกลมาก โดยเฉพาะงานวิชวลเอฟเฟกต์ที่เรียกว่าหาจุดโป๊ะได้ยากจริง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่เหมือนจริง แต่มันสมจริงสุด ๆ
ในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ผืนน้ำ สัตว์ใต้น้ำ ปะการัง พืชทะเล ที่สวยตื่นตาตั้งแต่ช็อตแรกจนถึงช็อตสุดท้าย ทั้งการทำ Motion Capture ใต้น้ำที่ทำให้ชาวนาวีสามารถดำดิ่งในน้ำได้อย่างเป็นธรรมชาติและพลิ้วไหวอย่างกับไปถ่ายทำในทะเลจริง ๆ อย่างไรอย่างนั้น ดูหนัง Avatar 1 พากย์ไทย
รวมทั้งการถ่ายทำด้วยเทคโนโลยี High Frame Rate (HFR) ที่ในหนังจะใช้เฟรมเรต 2 แบบสลับกันไปนะครับ คือในฉากที่แอ็กทีฟเยอะ ๆ อย่างเช่นฉากแอ็กชัน ฉากบิน ฉากวิ่ง ก็จะใช้ Frame Rate ที่ 48 เฟรมต่อวินาที ส่วนฉากอื่น ๆ ก็จะกลับมาใช้ 24 เฟรมตามปกติ เพื่อให้ยังคงอารมณ์ความเป็น Cinematic ของหนัง ซึ่งอาจจะทำให้ความลื่นของภาพดูไม่สม่ำเสมอบ้าง แต่ในแง่ฟังก์ชันก็ถือว่าได้ผล
และไม่ได้ถือว่าน่ารำคาญตารำคาญใจอะไร ยิ่งถ้าดูในระบบสามมิติจะยิ่งเห็นความแตกต่างเลยครับว่ามันไม่ใช่แค่ภาพเด้งป๊อปอัปเฉย ๆ แต่มันมีความลึก ความโค้งนูน ความคม สีสันที่สมจริงซะจนบางทีผู้เขียนยังแอบสะดุ้ง โดยเฉพาะซีนที่เป็น 48 เฟรมนี่คือลื่นหูตาแตกไปเลย
และเทคโนโลยี HDR (High Dynamic Range) ที่ช่วยให้ขอบเขตสีและคอนทราสต์ แสงและเงาที่คมชัดลึกยิ่งขึ้นกว่าเดิม ถ้าเทียบกับระบบสามมิติในภาคแรก จะเห็นเลยว่ามันแตกต่างจากภาคแรกเยอะมาก รวมทั้งงานวิชวลเอฟเฟกต์ที่จะนับว่าเป็นที่สุดของวงการหนังโลกไปเลยก็ได้ เพราะนอกจากจะสวยงาม และมีความครีเอทีฟในการออกแบบทั้งพาร์ตธรรมชาติ ระบบนิเวศใต้ทะเล สัตว์น้ำ
หรือแม้แต่พาร์ตเทคโนโลยีของ RDA ก็ตาม จะบอกว่าคาเมรอนได้เนรมิตโลกใบใหม่ขึ้นมาอันนี้ก็ถือว่าไม่เกินจริงแต่อย่างใด เพราะมันไม่ใช่แค่สวย ไม่ลอยเฉย ๆ แต่มันสมจริงและเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ชวนให้ตื่นตา ชนิดที่บรรดาหนังซูเปอร์ฮีโรยุคนี้ควรศึกษางานอย่างเร่งด่วน ต้องบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้ดูแล้วตึงอารมณ์สุดๆ ถ้าคุณเครียดเรามีหนังตลก ซีรีย์เกาหลี ให้คุณเลือกดูเพื่อคลายเครียดได้ และเรายังมีหนังเต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาขั้นให้ลำคานที่นี้ ดู Avatar 2 เต็มเรื่อง
แนวทางเรื่องราวของตัวหนังในภาคนี้ ก็ยังคงยึดแนวทางจากภาคแรกครับ นั่นก็คือการวางตามแบบฉบับหนังบล็อกบัสเตอร์ดี ๆ เรื่องหนึ่ง ที่มีครบทุกอารมณ์ ทั้งความน่ารัก ความตื่นตาตี่นใจ มีอารมณ์ขันแทรกเล็ก ๆ มีจังหวะเขย่าขวัญหน่อย ๆ มีประเด็นดราม่าขัดแย้งครอบครัว สังคม อุดมการณ์ และปิดจบที่งานแอ็กชันสุดมันที่ใส่มาจัดเต็มแบบยาว ๆ ทั้งหมดนี้ห่อหุ้มด้วยเนื้อเรื่อง
และพล็อตแนวหนังครอบครัว ที่ห่อหุ้มอยู่ในแพ็กเกจหนังไซไฟแฟนตาซีอีกที โดยเฉพาะการโฟกัสไปที่ดราม่าครอบครัวที่มาครบเลย ทั้งความรู้สึกแปลกแยก ความรู้สึกรักลูกไม่เท่ากัน การเอาลูกเขามาเลี้ยงเหมือนเอาเมี่ยงเขามาอม
การเป็นคนแปลกหน้าในที่แปลกถิ่น มุมมองความรักของพ่อแม่และลูกที่แตกต่างกัน แต่ล้วนแล้วทำไปด้วยเจตนาห่วงใย ฯลฯ ทำให้หนังในภาคนี้ก็ยังคงมีเนื้อเรื่องที่ไม่ซับซ้อน และเอาจริง ๆ ก็พอจะเดาเนื้อเรื่องออกได้แบบง่าย ๆ เลย แต่มันก็มีประโยชน์ในแง่ของการให้ความบันเทิงแบบครบรส ดูได้ทั้งครอบครัวที่ไม่จำเป็นต้องห่อหุ้มด้วยพล็อตไฮคอนเซปต์จัด ๆ หรือหักมุมพลิกหลายตลบ
แต่แม้ว่ามันจะเป็นหนังที่บันเทิงจ๋า ๆ แค่ไหน แต่จริง ๆ ก็ยังมีจุดที่เนือย ๆ อยู่ ด้วยความยาวมากกว่า 3 ชั่วโมง 12 นาที ส่วนตัวผู้เขียนเองยอมรับว่าเกิดอาการเหมือนหลุดจากหนังไปชั่วครู่ใหญ่ ๆ เลยครับ
โดยเฉพาะตอนที่หนังโชว์ฉากใหญ่ ๆ มันให้ความรู้สึกเหมือนว่ากำลังดูสัตว์น้ำในอะควาเรียม และบางช่วงก็ดูคล้ายกับช็อตในสารคดีสัตว์ทะเลอยู่เหมือนกัน ถ้าเอาแง่ดีก็คือ
มันเหมือนจริงขั้นสุดแบบ Hyper-Realistic คือเหมือนจริงจนกลายเป็นของจริงไปแล้ว แต่พอมันเป็นหนัง ก็ถือว่ากราฟความสนุกเกิดอาการตกท้องช้างอยู่พอสมควรเหมือนกันนะ ยังดีที่งานภาพที่สวยเนียนเพลินตายังพอช่วยให้ไม่รู้สึกเนือยเบื่อจนชวนให้ทอดถอนใจ และส่วนตัวผู้เขียนแอบเสียดายนิด ๆ ที่ได้เห็นพิธีกรรมหรือ Know-How ของชาวเผ่าในแบบที่เคยได้เห็นในภาคแรกน้อยไปสักนิด ทั้งที่มีเวลาเหลือเฟือขนาดนั้น
อย่างไรก็ตาม ‘Avatar: The Way of Water’ ก็เป็นหนังที่ผู้เขียนนั่งยันนอนยันว่า ยังไงก็ต้องไปดูในโรงนะครับ โอเค มันอาจเป็นหนังพล็อตง่าย ๆ ที่ไม่ได้ซับซ้อนจนต้องร้องโอ้โห แต่ยังไงมันก็เป็นหนังที่สนุกและให้ความบันเทิงได้ครบตามแบบฉบับคาเมรอนจริง ๆ นั่นแหละ แล้วก็เป็นเหมือนกึ่ง ๆ บทพิสูจน์ด้วยว่าคาเมรอนคือเจ้าพ่อหน้งภาคต่อจริง ๆ มันเป็น 13 ปีที่ทำให้เราได้เห็นพัฒนาการ
และวิวัฒนาการของงานด้านภาพและโปรดักชันที่ให้ความบันเทิงได้เหนือขึ้นไปอีกขั้นจริง ๆ ยิ่งถ้าดูในระบบ IMAX3D ที่ฉายผ่านเครื่อง IMAX with Laser จะยิ่งให้ประสบการณ์การดูหนังที่เติมเต็มสุด ๆ เป็นประสบการณ์ภาพยนตร์แห่งปีที่ต่อให้รอดูสตรีมมิงที่บ้านได้ แต่ถ้าพลาดไปก็น่าเสียดายอยู่นะ