
Sonic the Hedgehog 2 (2022) เรื่องราวของเม่นที่ว่องไวที่สุดในโลก เมื่อเขามาเยือนบ้านใหม่บนโลก ในภาพยนตร์ตลกแอ็คชั่นที่ใช้คนแสดง โซนิคและเพื่อนรักคนใหม่ของเขาอย่าง ทอม (เจมส์ มาร์สเดน) ต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องโลกให้พ้นจากอัจฉริยะผู้ชั่วร้าย ดร.โรบ็อทนิก (จิม แคร์รี่) และแผนการที่หวังจะครองโลกของเขา
ในภาคนี้จะเป็นเรื่องราวที่ต่อมา จากภาคแรก จะดำเนินต่อจากภาคแรก เริ่มเรื่องมาเราจะเห็น Sonic (ให้เสียงโดย Ben Schwartz) ที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่กับ Tom Wachowski (รับบทโดย James Marsden) และ Maddie Wachowski (รับบทโดย Tika Sumpter) จนอยู่ดีๆ Dr. Robotnik (รับบทโดย Jim Carrey) ที่ในภาคแรกได้ติดอยู่ที่ดาวเห็ด จู่ๆเขาก็หนีรอดออกมาได้ และกลับมาที่โลกเพื่อล้างแค้นโซนิค แต่ที่ต่างจากเดิมคือในครั้งนี้ Dr. Robotnik ไม่ได้มาเพียงคนเดียว แต่เขาได้พาเม่นต่างดาวที่เป็นเผ่าคู่อริของโซนิคมาด้วย นั่นก็คือ Knuckles (ให้เสียงโดย Idris Elba) ที่เดินทางมาที่โลกเพื่อตามหาเพชนมรกต ที่มีพลังไร้ขีดจำกัด เพื่อหวังจะนำพลังนั้นไปล้างแค้นให้กับเผ่าของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีสมาชิกใหม่มาอีกคน ที่เดินทางมายังโลกเพื่อเตือนโซนิคถึงภัยร้ายที่จะเกิดขึ้น นั่นก็คือ Tails (ให้เสียงโดย Colleen O’Shaughnessey) สุดท้ายแล้ว บทสรุปของเรื่องราวครั้งนี้จะเป็นอย่างไร จะสนุก บันเทิง และวายป่วงขนาดไหน ทุกคนต้องไปรับชมกันด้วยตาตัวเอง หนังใหม่อัพเดทไวทุกวัน หาดูได้ไม่ยากอีกต่อไป เพียงแค่คุณ คลิกที่นี่ ดูหนังออนไลน์ฟรี
ต่อไปนี้จะเป็นความรู้สึกหลังจากที่ได้ดูภาคนี้ Sonic the Hedgehog 2 จบ ส่วนตัวผมรู้สึกชอบภาคนี้ มากกว่าภาคแรกอยู่พอสมควร เพราะว่าภาคนี้นี่ดูเหมือนผู้กำกับเขาตัดสินใจที่จะขายเด็กหนักๆ และแฟนเซอร์วิสรัวๆ ด้วยการเอาตัวละครหลักๆจากเกม ให้มาปรากฎตัวในภาคนี้ให้หมด แถมในภาคนี้ยังมีฉากคุยกันน้อยด้วย แทบจะไม่มีเลย คือดำเนินเรื่องรัวๆ แอ็กชันมันๆ ซึ่งส่วนตัวผมชอบแบบนี้เอามากๆ เอาหละมาเริ่มที่เรื่องบทกันก่อนเลย บทของภาคนี้ถ้าเอาตรงๆก็เรียบแบนมากๆ เดาได้ง่าย แต่มันไม่ได้แย่จนน่าเบื่อ คือบทยังดูได้สนุกเพลินๆ ไม่มีจังหวะไหนที่รู้สึกน่าเบื่อ หรือง่วงเลย เพราะสำหรับคนที่ตัดสินใจมาดูหนังเรื่องนี้ ก็คงไม่มีใครคาดหวังเรื่องความสมเหตุสมผล หรือความสมจริงอะไรกันหรอก คนส่วนใหญ่ที่ไปดูคือไปดูโซนิค และพรรคพวก และผู้กำกับก็จัดสิ่งที่พวกเราต้องการมาให้แบบเต็มๆ และสิ่งที่ฉลาดคือให้บทหลักๆของภาคนี้ไปผูกอยู่กับโซนิคแทบทั้งหมด ส่วนทอมที่เคยมีบทบาทในภาคแรก ก็ดรอปลงไปเลย และเน้นที่ความสัมพันธ์ของโซนิคกับเทล ซึ่งมันดีมากๆ ก็อย่างที่เกรื่นไปก่อนหน้านี้ การดำเนินเรื่องดีมาก เลื่อนไหลไม่มีสะดุด เนื้อเรื่องไม่น่าเบื่อ เล่าเรื่องเข้าใจง่าย คือเด็กอายุไม่ถึง 10 ขวบมาดูก็ยังเข้าใจได้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ส่วนผู้ใหญ่ที่ดูก็ยังดูได้ เรียกได้ว่าเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ต่อกันด้วยเรื่องการแสดง อย่างว่าในภาคนี้ ตัวละครที่เป็นมนุษย์ไม่ค่อยมีบทบาทเลยซักคน ยกเว้นตัวละคร Dr. Robotnik ของ Jim Carrey ที่มีบทบาทมากที่สุดแล้ว และสำหรับการแสดงของป๋าจิมก็ไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะเขาคือระดับมืออาชีพแล้ว การแสดงของเขาแทบจะแบกหนังทั้งเรื่อง เล่นได้ดีเหมือนเดิม และทำให้ตัวละคร Dr. Robotnik น่าจดจำมากๆ แม้ว่าจะเล่นใหญ่ผมก็ไม่ติด เพราะมันเป็นหนังสำหรับเด็ก และทำมาจากเกม มันก็ต้องเวอร์ ล้นๆแบบนี้นี่แหละ ถูกแล้ว ส่วนคนอื่นๆก็เล่นได้ทั่วไปไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมาย นอกจากนี้ยังมีเพลงประกอบที่เพราะมากๆ ส่วนตัวผมชอบเพลงในเรื่องมาก แต่เราได้หามาให้ทุกคนแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อซ่อนข้อความIt’s Tricky – RUN DMC
1812 Overture – Tchaikovsky
Here Comes The Hotstepper (Heartical Mix) – Ini Kamoze
This Is How We Do It – Montell Jordan
Living On The Road – Federico Rapagnetta et al.
Hapa Haole – Porouchi Nawohi
Don’t Know Why – Norah Jones
Me And You – Rich White
Severny Kozachok – Vyvyon John Ekkel
Russian Dance 1 – Lee Blaske, Darren Drew & Brian Reidinger
Uptown Funk – Mark Ronson Feat. Bruno Mars
A Summer Place – Andy Williams
Pachelbel’s Canon Hawaiian Steel Guitar · Aloha Oe Hawaiian Music
Green Hill Zone – Masato Nakamura
You Know How We Do It – Ice Cube
Barracuda – Heart
I Shrink, Therefore I Am – Christophe Beck & Tyler Lawson Western
Walk – Pantera
The Final Game / Take Me Out To The Ball Game – Randy Newman
UP 2 SPEED – Victor McKnight (feat. SquigglyDigg, BillyTheBard11th & Chi-chi)
Stars In The Sky – Kid Cudi
ดาราเต็มนภา (Stars In The Sky Thai Version) – Mar
Speed Life – Stephane Legar
UP ON THE GREEN HILL (Remix) – DREAMS COME TRUE
Speed Life (English Version) – Mar
ว่องไว (Speed Life Thai Version) – Mar
นักแสดงที่เรายังไม่รู้ว่าแต่ลละตัวละคร ใครที่รับบทนั้นๆ
สรุปสุดท้ายด้านงานภาพและการโปรดักชั่น ในส่วนของงานภาพ ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานทั่วไป ไม่ได้ถึงกับดีมากมายก่ายกอง แต่ต้องชมการออกแบบตัวละครโซนิค และเพื่อนๆ ที่ทำออกมาได้เหมือนในเกมที่พวกเราเคยเล่นจริงๆ ทั้งเทล และนัคเคิล ตัวละครจากเกมที่พึ่งมาในภาคนี้ ก็ทำออกมาได้ดีมากๆ และแต่ละตัวละครก็มีนิสัยที่ต่างกันชัดเจน ทำให้ทุกตัวมีเอกลักษณ์และจดจำได้ง่าย ส่วนด้านงานซีจี แม้ว่าจะมีลอยๆบ้าง แต่ผมไม่ติดเลย เพราะอย่างว่า มันหนังสำหรับเด็ก และแฟนตาซีอยู่แล้ว ขอแค่ตัวละครจากเกมออกมาดูดี คนดูก็พึงพอใจแล้ว ด้านโปรดักชั่นต่างๆก็ดีหมด เสื้อผ้าหน้าผมนี่ผมขอชมเลย ทำออกมาได้ดี ชุดแต่ละชุดของ Dr. Robotnik ก็สวยดี แถมการออกแบบยานต่างๆในเรื่อง หรืออุปกรณ์ไฮเทคของ Dr. Robotnik ก็ทำออกมาได้ดีมากๆ โดยรวมแล้วทำออกมาได้ดีใช้ได้เลย เป็นหนังที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี สนุก ตลก บันเทิง ครบรส แนะนำให้ลองไปดูกันครับ ไม่เสียดายเวลาแน่นอน ท้ายสุดนี้ผมขอให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องSonic the Hedgehog 2 (2022) ไว้ที่ 7/10 คะแนน รีวิวหนัง รีวิวซีรีย์ สปอยหนังเราก็ยังมี ที่นี่เลย รีวิวหนังออนไลน์