
Uncharted (2022) ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก
เรื่องย่อ : “นาธาน เดรก” (ทอม ฮอลแลนด์) โจรหนุ่มสุดฉลาดและมีไหวพริบ ถูกเลือกโดยนักล่าขุมทรัพย์รุ่นเก๋า “ซัลลี่” (มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) เพื่อหาขุมทรัพย์ทองของนักเดินเรือนามว่ามาเจลลัน โคตรมหาสมบัติ 500 ปี
ที่ไม่มีใครเคยเจอ จุดเริ่มต้นของการโจรกรรมง่ายๆ กลายเป็นการแข่งขันสุดมันส์ข้ามทวีป เพื่อให้ถึงจุดหมายก่อนที่ “มอนคาด้า” (แอนโตนิโอ แบนเดอรัส) ผู้ที่คิดว่าตัวเองคือผู้สืบทอดและเป็นเจ้าของที่แท้จริง
ของมหาสมบัติจะได้ไปครอบครองการผจญภัยสุดมันส์ของ เนท และ ซัลลี่ ที่ต้องแก้ปมปริศนา เพื่อที่พวกเขาจะได้ พบกับขุมสมบัติมูลค่า 5 พันล้านเหรียญ และไม่แน่ว่าการผจญภัยครั้งนี้อาจทำให้เนทได้พบกับพี่ชายที่หายสาบสูญไปของเขา ดูหนังออนไลน์
เล่าเรื่องราวของ นาธาน เดรก หรือ เนท (ทอม ฮอลแลนด์) โจรหนุ่มที่ทำงานเป็นบาเทนเดอร์ เขาเป็นคนฉลาดเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ และเป็นคนมีไหวพริบ เขามีพี่ชายที่สนิทและรักกันมาก แต่มีเหตุให้ต้องแยกจากกันเมื่อ 15 ปีก่อน และขาดการติดต่อไป แต่อยู่มาวันหนึ่ง ซัลลี่ (มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) มาหาเนท และบอกว่าเป็นเพื่อนของพี่ชายเนท จากนั้นก็ชวนเนทไปทำภารกิจผจญภัยล่าขุมทรัพย์ทองคำของ มาเจลลัน
สมบัติที่หายสาปสูญไปนานกว่า 500 ปี ก่อนที่ มอนคาด้า (แอนโตนิโอ แบนเดอรัส) ผู้ที่คิดว่าตัวเองคือผู้สืบทอดและเป็นเจ้าของที่แท้จริงของมหาสมบัติจะได้ไปครอบครอง บทสรุปจะเป็นอย่างไร
ต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์
ความรู้สึกแรกหลังจากที่ได้ดู ผมกลรู้สึกว่าสนุกและบันเทิงดี ไม่ได้แย่สำหรับผม และค่อนข้างชอบด้วย แต่ก็มีจุดหลักๆที่ไม่ชอบเหมือนกัน ผมขอบอกก่อนว่าผมไม่ใช่แฟนเกมส์ Uncgarted และไม่ได้รู้เนื้อเรื่องของเกมส์มาก่อน เข้าไปดูแบบไม่รู้อะไรเลย แต่บอกเลยว่ารู้เรื่องทั้งหมด เข้าใจได้อย่างง่ายๆเลย เพราะหนังเล่าเรื่องราวย้อนกลับไปก่อนเหตุการณ์ในเกมส์ภาคแรก เป็นเรื่องราวของ นาธาน เดรก ในวัยหนุ่ม ก็คือเริ่มตั้งแต่ต้น
ดังนั้นคนไม่ใช่แฟนเกมส์ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะดูไม่รู้เรื่อง ตัดสินใจซื้อตั๋วเข้าไปดูได้เลย อาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ แต่คงไม่ถึงขนาดเสียดายค่าตั๋ว เพราะภาพรวมของหนังถือว่าทำออกมาได้ดีอยู่ เป็นหนังที่ทำเพื่อทุกคนที่ไม่ลืมที่จะเอาใจแฟนเกมส์ และก็ไม่ทอดทิ้งคนที่ไม่ใช่แฟนเกมส์ ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีเพราะจะได้มีโอกาสสร้างรายได้แบบเต็มที่ เพื่อนะได้เป็นแฟรนไชส์และมีภาคต่อๆไป ส่วนตัวผมเชียร์ให้ประสบความสำเร็จ
และได้ไปต่อนะ เพราะถ้าไปต่อก็จะเข้าเนื้อเรื่องตามในเกมส์ ซึ่งอาจทำออกมาได้ดีก็ได้ ผมมองว่าภาคแรกนี้เป็นเหมือนแค่การอุ่นเครื่องซะมากกว่า ถ้าภาคต่อไปได้สร้างขึ้นมาจริงๆ และทำการปรับปรุงจุดที่ผิดพลาดในภาคนี้ไปได้ มันจะกลายเป็นหนังที่สนุกมากๆแน่นอน เพราะหนังเรื่องนี้ก็มีจุดที่ทำได้ดีมากๆ และน่าจดจำอยู่เช่นเดียวกัน
ฉากแอ็คชั่น เวอร์วังอลังการ ระเบิดภูเขาเผากระท่อม
ฉากแอ็คชั่นของเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว เวอร์วังอลังการ ระเบิดภูเขาเผากระท่อม และมอบความบันเทิงใฟ้ผมได้พอสมควร เรียกได้ว่าฉากแอ็คชั่นเป็นเหมือนข้อดีของหนังเรื่องนี้เลย มันสะใจถึงใจ ออกแบบฉากบู๊ คิวบู๊ออกมาได้ดี ส่วนตัวผมชอบฉากบู๊ของ ทอม ฮอลแลนด์ เพราะด้วยความที่ผู้กำกับดีไซน์ตัวละคร นาธาน เดรก เป็นตัวละครที่ฉลาด คล่องแคล่วว่องไว ทำให้ฉากแอ็คชั่นของตัวละครนี้มันดูเพลินตาดี
แต่ก็มีข้อเสียคือทำให้เราสลัดภาพสไปเดอร์แมนที่ทอมเล่นไว้ไม่ออก เนื่องจากตัวละครสองตัวนี้มีความคล่องแคล่วว่องไวเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้มากมายแค่บางฉากเท่านั้น แต่ทอมก็ยังมีความเป็น นาธาน เดรกอยู่พอสมควร ส่วนฉากแอ็คชั่นในเรื่องที่ผมชอบ ก็จะเป็นฉากที่ทอมสู้แบบบาเทนเดอร์ โคตรเท่ห์และมีความปั่นดี อีกฉากก็ตอนท้ายๆที่ทอมกับมาร์ค สู้แบบคู่หูบนเรือ ฉากนั้นทำออกมาได้ดีเลย
ให้อารมณ์หนังคู่หูแอ็คชั่น-คอมเมดี้ โดยรวมแบ้วฉากแอ็คชั่นของเรื่องนี้ผมค่อนข้างประทับใจและเอ็นจอยกับมันมากๆ
บทแบะการดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้ ผมขอแยกกันนะ ในด้านของการดำเนินเรื่อง ผมมองว่าทำได้ดีแล้ว เพราะดำเนินเรื่องไปอย่างรวดเร็ว ลำดับเหตุการณ์ต่างๆได้ดี เข้าใจง่าย กระชับไม่ยืดเยื้อ ส่วนในด้านของบท ผมรู้สึกว่ายังทำออกมาได้ ลตามมาตรฐานทั่วไป ซึ่งผมมองว่าในจุดนี้แหละที่แฟนเกมส์รู้สึกผิดหวัง ทั้งความสัมพันธ์ของตัวละคร ที่ยังไปได้ไม่สุดทางมันไม่ได้ลึกซึ้งอะไรมากมายขนาดนั้น หนังจะโฟกัสไปที่ภารกิจ
แต่ก็ยังไปไม่สุดเหมือนกัน และในส่วนของบทที่ถือว่าทำได้ยังไม่ดีพอ คือเรื่องการแก้ไขปริศนาในช่วงกลางเรื่อง ตอนที่ลงใต้ดินไปไขกุญแจนั่น ทุกอย่างมันดูง่ายไปหมด ไม่ค่อยมีอุปสรรคหรือกับดักอะไรมากนัก
แบบแปปๆหารูกุญแจเจอแล้ว มันง่ายและแทบไม่พลาดเลย มันส่งผลให้คนดูไม่อินตามหรือรู้สึกลุ้นไปกับตัวละคร ถ้าทำในจุดนี้ให้มีอุปสรรคหน่อย ผิดพลาดบ้าง เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ใส่ความดราม่าจริงจังเข้าไปอีกหน่อย
จะทำให้หนังมันสมบูรณ์แบบมากๆ เพราะผมเคยดูพี่เอก Hrk เล่นเกมส์นี้มาก่อน จำได้ว่าเวลาไขปริศนาต่างๆนี่ในเกมส์ทำออกมาได้ดีมากๆ ผมถึงบอกว่าหนังภาคนี้เป็นแค่เรื่องราวก่อนเกมส์ภาคแรก ผมจังอยากเห็นภาคต่อที่นำเนื้อเรื่องในเกมส์มาทำ และทำฉากปริศนาตามเกมส์เลย บวกกับฉากแอ็คชั่นที่ทำได้ดีอยู่แล้ว จะทำให้มันไปได้สุดทาง และน่าจดจำแน่นอน
ในด้านงานภาพถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ผมค่อนข้างชอบในจุดนี้ ทั้งเรื่องก็ถ่ายออกมาได้สวยตามมาตรฐาน แต่จะมีฉากบนเครื่องบิน และฉากแอ็คชั่นช่วงท้ายเรื่อง ที่ผมมองว่าทำออกมาได้ดีมากๆ โดยเฉพาะฉากบนเครื่องบิน ภาพสวยมากๆ ปรับฟิลเตอร์สีท้องฟ้าสวยมากๆฉากนี้ ต่อมาเรื่องงานวิชวลเอฟเฟค ในส่วนนี้ผมมองว่าทำได้ดีมากๆเลย วิชวลเอฟเฟคเนียนตา สวยงามทุกฉากทุกซีน ไม่มีความรู้สึกว่าลอยเลย
ทำได้ดูธรรมชาติมากๆ ยิ่งฉากแอ็คชั่นท้ายเรื่องที่เป็นแอ็คชั่นแบบเวอร์วังอลังการ ก็ยังทำวิชวลเอฟเฟคออกมาได้ยอดเยี่ยม เก็บรายละเอียดยิบย่อยดีมากจริงๆ ส่วนนี้ต้องยอมรับเพราะเป็นจุดแข็งของทางค่าย Sony Pictures เลย เรื่องงานวิชวลเอฟเฟคเนี่ย มาตรฐานยังดีเหมือนเดิม รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
ตัวละครที่ผมประทับใจในหนังเรื่องนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้น 2 ตัวละครหลักอย่าง นาธาน เดรก ที่รับบทโดย ทอม ฮอลแลนด์ และ ซัลลี่ ที่รับบทโดย มาร์ค วอห์ลเบิร์ก ผมรู้สึกว่าสองคนนี้เล่นเป็นคู่หูกันได้เข้าขาอยู่พอสมควรเลย แม้ว่า ทอม ฮอลแลนด์ ในเรื่องเรื่องนี้ ยังมีความ รู้สึกให้เรานึกถึงสไปเดอร์แมนอยู่ตลอด สลัดภาพจำของผมยังไม่ได้เท่าไหร่ แต่แค่บางฉาก ในภาพรวมแล้วเรื่องนี้ก็เ่นได้ดีตามมาตรฐานของเขา ด้วยความที่เป็นหนังแนวเอาบันเทิงด้วย เลยไม่ได้มีซีนดราม่าหรืออะไรให้ได้แสดงฝีมือมากนัก ในส่วนของมาร์ค วอห์ลเบิร์ก ถือว่าทำได้ดีเลย ผมชอบตัวละครของเขามากที่สุด เล่นเป็นคนเห็นแก่ตัวจอมหักหลัง แถมเล่นได้ธรรมชาติอีก ฝจนผมเชื่อว่านี่คือซัลลี่จริงๆ ซึ่งผมไม่เคยเล่นเกมส์เลยไม่รู้ว่าในเกมส์ ซัลลี่เป็นแบบในหนังหรือเปล่า ผมวัดแค่จากในหนังถือว่ามาร์คแสดงได้ดี แต่ก็ไม่ได่ถึงกับดีมาก ส่วนตัวผมมองว่านักแสดงทั้ง 2 คนนี้มีฝีมืออยู่พอสมควร ถ้าบทไปได้สุดกว่านี้ ก็คงได้เห็นพวกเขาปล่อยของ แต่ภาพรวมก็ถือว่าทั้งคู่ทำได้ดีเลยทีเดียว
หนังเริ่มเรื่องด้วยวัยเด็กของ นาธาน เดรค ที่ร่วมมือกันหวังปล้นแผนที่ขุมทรัพย์แต่กลับถูกจับได้ทำให้แซมพี่ชายของเขาต้องหายไปจากชีวิตจนปัจจุบัน เดรค (รับบทโดย ทอม ฮอลแลนด์) ต้องเลี้ยงชีพด้วยการเป็นบาร์เทนเดอร์และแอบจิ๊กของลูกค้าเลี้ยงชีพแต่กลอุบายของเขาก็ถูกจับไต๋ได้โดยวิกเตอร์ ซัลลิแวน (รับบทโดย มาร์ค วาห์ลเบิร์ก Mark Wahlberg) ยอดโจรสมองเพชรที่ชวนเขาร่วมภารกิจล่าขุมทรัพย์โดยใช้ปริศนาการหายตัวไปของแซมมาเป็นสิ่งล่อใจ
แต่พวกเขาไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่ออกตามล่าสมบัติแต่ยังมี ซานติอาโก มอนคาดา (รับบทโดย แอนโทนิโอ แบนเดอราส Antonio Banderas) นักธุรกิจขาใหญ่ พร้อมด้วยแบรดด็อก (รับบทโดย ทาทิ แกเบรียล Tati Gabrielle) มือสังหารสาวโหดที่ยอมมือเปื้อนเลือดเพื่อให้ได้ครองสมบัติ รวมถึงโคลอี เฟรเซอร์ (รับบทโดย โซเฟีย อาลี Sophia Ali) ผู้ครองกุญแจอีกหนึ่งดอก โดยงานนี้เดรคไม่อาจไว้ใจใครได้เลยแม้กระทั่งซัลลิแวน
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าหนังเพียบพร้อมด้วยทีมงานเกรด A ในการผลิตหนังแอ็กชันผจญภัยสักเรื่องให้ออกมาบันเทิงและเรียกเงินเข้ากระเป๋าโซนีได้เป็นกอบเป็นกำ ถ้าเราจะเอาแค่ความสนุกแบบดูจบแล้วลืม ๆ ไปเลย ‘Uncharted’ มีให้คุณแน่นอนครับ แถมเซอร์วิสแฟนเกมหนักมาก ๆ ทั้งสกอร์ดนตรีประกอบและภาพโหมดสโลว์โมชันที่แทบถอดแบบจากเกมมาเอาใจสายเกมเมอร์โดยเฉพาะ พร้อมวิช่วลเอฟเฟกต์แบบเชื่อมือได้สไตล์สตูดิโอหนังระดับบิ๊ก หากต้องการแค่นี้ผมยืนยันว่าหนังมีให้แน่นอน
แต่สิ่งที่ ‘Uncharted’ ทำตกหล่นอย่างไม่น่าให้อภัยเลยประการแรกคือการสร้างตัวละครที่ดึงดูดใจ สมมติว่าเอาคนอื่นมารับบทนาธาน เดรค ก็ยากล่ะครับที่คนดูจะอยากเอาใจช่วยบาร์เทนเดอร์นิสัยโจรที่ทั้งเรื่องหาความฉลาดแทบไม่เจอโดนหลอกแล้วหลอกอีกดักดานจนงงว่ามันจะไปคิดปริศนาสมบัติอันซับซ้อนได้ยังไง แถมหนังก็เลือกเล่าข้าม ๆ ไปหลายจุดจนมันขาดความเชื่อถือดูไปเกิดอาการเอ๊ะไปยังไงยังงั้น
ส่วนต่อมาคือฉากผจญภัยต่าง ๆ ที่แม้วิช่วลเอฟเฟกต์จะเลอเลิศแบบไม่เถียงเลยว่าดูแล้วไม่เสียดายตังค์แน่นอน แต่ในความสนุกผิวเผินของหนังก็คือการไม่ให้ความสำคัญกับบทภาพยนตร์แถมยังไม่ค่อยได้ใส่อุปสรรคอะไรให้เราอยากเอาใจช่วยทั้งเดรคและซัลลิแวนเท่าที่ควร ทั้งที่เป็นตัวละครหลักแต่เรากลับไม่มีข้อมูลอะไรให้ยึดเกาะหรือทำให้รู้สึกว่าอยากให้พวกเขาตามหาสมบัติให้สำเร็จเท่าใดนัก แม้จะใส่ความเป็นแอนตีฮีโร่ให้ซัลลิแวนว่าเป็นคนที่คบคนหวังผลประโยชน์แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่าท้ายที่สุดมันก็ทิ้งเดรคไม่ลงอยู่ดี
สุดท้ายแล้วแม้ว่าหนังจะได้นักแสดงระดับแม่เหล็กอย่างทอม ฮอลแลนด์มารับบทตัวละครที่แฟนเกมชื่นชอบ แต่ด้วยบทหนังที่แบนราบเกินไปมันก็ไม่ทำให้ฮอลแลนด์ดูมีเสน่ห์ในฐานะนักผจญภัยขาบู๊เท่าไหร่นักแม้ว่าจะมีฉากถอดเสื้อเซอร์วิสสาว ๆ ก็ไม่ช่วยเท่าไหร่ ส่วนมาร์ค วาห์ลเบิร์กก็เอาตัวรอดไปได้ด้วยลุคแบดบอยแต่ก็ดันดูไม่น่าเชื่อถือในฐานะโจรเศรษฐีเท่าไหร่นัก รีวิวหนัง รวบรวมไว้ที่นี้แล้ว
ตรงกันข้ามกับบรรดานักแสดงที่มาสมทบโดยเฉพาะแอนโทนิโอ แบนเดอราสที่เสน่ห์แบบหนุ่มใหญ่ล้นเหลือมาก สำเนียงสแปนนิชก็เซ็กซี่จนกลบบรรดานักแสดงหลาน ๆ ซะมิดเชียวหรือจะเป็น ทาทิ แกเบรียล ในบทมือสังหารสาวก็ยังทำให้เราเห็นความเท่ของเธอ หรือจะเป็น โซเฟีย อาลี ที่ได้โชว์ความสวยคมคายแบบสาวลูกครึ่งตะวันออกกลางจนอย่างน้อยคนดูหนุ่มๆ ก็มีอะไรให้กระชุ่มกระชวยหัวใจบ้าง
ย้ำกันอีกทีว่าแม้จะพลาดและไม่น่าจดจำ แต่อย่างน้อย ‘Uncharted’ ก็มาเติมเต็มให้โรงหนังมีโปรแกรมที่ดึงดูดคนดูกลุ่มใหญ่ได้ และที่สำคัญหนังก็ยังทำหน้าที่ได้ดีในฐานะหนังบันเทิงเรื่องหนึ่ง เพียงแต่หากอยากให้ตัวหนังมีฐานแฟนคลับเท่าเกมอาจต้องพัฒนาบทหนังและตัวละครนำให้น่าสนใจกว่านี้อีกเยอะ
หลังจากดูจบแล้วอย่าพึ่งรีบลุกรีบกลับกันนะครับ เพราะเรื่องนี้มีเอ็นเครดิต ท้ายเรื่อง ที่จะเป็นการปูเรื่องราวไปสู่ภาค 2 จากเอ็นเครดิตที่ออกมา ให้เราเห็นถึงคู่หู คู่ฮา เริ่มไปทำภารกิจล่าสมบัติกันอีกครั้ง โดยในเอ็นเครดิต ให้เราได้เห็นว่สตัวละคร ซัลลี่ (มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) นั้นมีภาพลักษณ์ที่เปลั่ยนไป ก็คือมีหนวดเพิ่มมา ซึ่งผมได้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมา สรุปได้ว่า ในเวอร์ชั่นเกมส์ตัวละครซัลลี่นั้นปกติมีหนวด และจากเรื่องราวที่ปูไว้ในเอ็นเครดิต ก็คือการปูไปสู่เนื้อเรื่องใน เกมส์ภาคแรกอย่าง Uncharted: Drake’s Fortune ที่ออกวางจำหน่ายในปี 2007 ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้จริงๆ แสดงว่าถ้าหนังประสบความสำเร็จและได้สร้างภาคต่อ ภาคต่อนี้ก็จะเป็นเรื่องราวเดียวกับในเกมส์ ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ทีมผู้สร้างได้แก้ตัวและมอบแฟนเซอร์วิสให้กับแฟนเกมส์ได้เต็มที่ ผมจึงอยากให้หนังเรื่องนี้ได้ไปต่อ น่าติดตามมากๆ เพราะเนื้อเรื่องในเกมส์ก็สนุกและดีงามอยู่แล้ว ซึ่งฝันของผมจะเป็นจริงไกมคงต้องรอติดตามกันต่อไป ใครที่ยังไม่ได้ดูก็อยากให้ลองไปดูกันนะครับ อย่าเชื่อคะแนนวิจารณ์ หรือคำพูดของคนอื่น แต่จงไปพิสูจน์ด้วยตาของตัวเอง